ฉันเชื่อว่าหลายคนในที่นี้คงคุ้นเคยกับคำว่า อินโทรเวิร์ต (Introvert) แล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก ลองมาติดตามเรื่องราวของฉันดูนะคะ หวังว่าเมื่ออ่านจบแล้ว คุณจะได้รู้จักและเข้าใจอินโทรเวิร์ตมากขึ้นค่ะ
ที่นี่ ฉันจะเล่าให้ฟังว่าฉันใช้ชีวิตในแต่ละวันในฐานะอินโทรเวิร์ตอย่างไร ใช่แล้ว เป็นการเดินทางที่ยาวนานทีเดียว...
ตอนแรกฉันเป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่ง เหมือนเด็กคนอื่นๆ ทั่วไป ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ แต่แล้วก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ฉันเริ่มโดนเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันตำหนิ เยาะเย้ย แซว หรืออะไรก็ตามแต่ พวกเขาหัวเราะเยาะฉันเพราะรูปร่างหน้าตา จริงอยู่ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 รูปร่างฉันเริ่มเปลี่ยนไป ฉันผอมลงมาก ฉันไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร พวกเขาก็เริ่มเยาะเย้ยฉัน ไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง แต่ก็มีเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้พวกเขาหัวเราะเยาะฉัน จนกระทั่งฉันเคยร้องไห้ในห้องเรียนเพราะพวกเขา ฉันอ่อนแอ อ่อนแอมาก ฉันไม่มีทางสู้กับพวกเขา ฉันแค่เงียบ ฉันตอบโต้พวกเขาไม่ได้ ฉันกลัว จริงๆ แล้วมันทำให้หัวใจฉันเจ็บปวดมาก ตอนที่พวกเขาหัวเราะเยาะฉัน ฉันก็เงียบ แต่จริงๆ แล้วข้างในฉันร้องไห้ เจ็บปวดมาก เจ็บปวดจริงๆ (พอคิดถึงเหตุการณ์นั้นก็รู้สึกเจ็บปวดเหมือนเดิม T.T)
ตลอดทางกลับบ้าน ฉันพยายามกลั้นความเจ็บปวดนั้นไว้ พยายามไม่ให้น้ำตาไหล พอถึงบ้าน ฉันก็ไม่แสดงความเศร้าให้แม่เห็น ฉันไม่อยากทำให้แม่เสียใจ สิ่งที่ฉันทำคือเข้าไปในห้องนอนและร้องไห้ออกมาให้เต็มที่ ฉันร้องทุกข์กับพระเจ้า ฉันเคยถามพระองค์ถึงความยุติธรรม พระเจ้าเอ๋ย ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ ทำไมฉันถึงไม่เหมือนคนอื่น ทำไมฉันถึงไม่เหมือนเด็กทั่วไป ทำไมฉันถึงแตกต่าง ทำไมฉันถึงอ่อนแอ ทำไมนะพระเจ้า ทำไม ?? คำถามพวกนี้มันอยู่ในใจฉันเสมอ และฉันก็ระบายมันออกมาทุกครั้งที่ร้องไห้ในห้องนอน ไม่มีใครรู้เลยว่าฉันร้องไห้ในห้องนอนเสมอ ไม่มีเลย
ฉันมักจะระบายความรู้สึกให้ตุ๊กตาหมีตัวโปรดฟัง ฉันมักจะกอดมันเวลาที่รู้สึกเหงา ฉันคิดว่ามีแค่ตุ๊กตาตัวนี้เท่านั้นที่รู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร ตุ๊กตาหมีตัวโปรดของฉันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ที่คอยอยู่ข้างฉัน ที่เข้าใจฉัน ตุ๊กตาตัวนั้นเป็นพยานเงียบของการเดินทางในชีวิตฉัน จนถึงทุกวันนี้ ตุ๊กตาหมีตัวนั้นยังอยู่และจะอยู่ต่อไป...
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉันเริ่มจากลาเพื่อนๆ ในชั้นประถม ฉันภาวนาเสมอว่าเมื่อฉันเข้ามัธยมต้น ฉันจะมีเพื่อนที่ดีและไม่มีใครมาเยาะเย้ยฉันเหมือนตอนประถมอีกแล้ว ปี 2548 ฉันสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้ ฉันดีใจมาก เพราะโรงเรียนมัธยมแห่งนี้คือโรงเรียนในฝันของฉัน ตอนแรกที่เข้าไป ฉันเห็นว่าเพื่อนๆ ใจดี ไม่เหมือนตอนประถม จริงด้วย ฉันมีเพื่อนสนิทที่นั่น แต่ก็ยังมีเพื่อนคนหนึ่งที่ชอบเยาะเย้ยรูปร่างฉัน รู้สึกเศร้า แต่ความเศร้าก็หายไปเพราะฉันมีเพื่อนที่ดี ใช่แล้ว ชีวิตมัธยมต้นของฉันดีกว่าตอนประถม แต่ความรู้สึกนั้นก็กลับมาอีก คำถามนั้นก็กลับมาอีก ตอนนั้น ฉันเป็นคนขี้อาย เงียบ และไม่ใช่คนเข้าสังคม ไม่รู้ทำไม ฉันถึงได้ตั้งคำถามกับตัวเองเสมอ ฉันมักจะมองเห็นว่าตัวเองไม่เหมือนเพื่อนๆ วัยเดียวกันทั่วไป ฉันรู้สึกว่าไม่มีใครเหมือนฉัน ฉันรู้สึกว่าตัวเองแตกต่าง ฉันมักจะถามตัวเองว่า “ฉันคือใคร ?” ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ อะไรทำให้ฉันเป็นแบบนี้ อะไรทำให้ฉันไม่เหมือนคนอื่น อะไรผิดปกติกับฉัน อะไรที่ฉันควรทำเพื่อให้เป็นเหมือนคนอื่น จริงๆ แล้วฉันไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้ ฉันไม่เข้าใจ...
เวลา 3 ปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว และฉันก็เข้าสู่ช่วงเวลาของการเรียนในระดับอาชีวะ ที่นี่ฉันประสบกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ตอนเรียนอาชีวะ ฉันเริ่มสวมฮิญาบ (Hijab) รูปร่างฉันเริ่มสมส่วน ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ผอมมาก และที่นี่ฉันเป็นคนที่เพื่อนๆ วัยเดียวกันให้ความสนใจ พวกเขาให้ความสนใจฉันเพราะฉันเป็นคนที่ได้ที่ 1 ของห้องเสมอ จริงๆ แล้วฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ฉันไม่ชอบเป็นจุดสนใจ และฉันไม่ชอบเป็นคนที่คนอื่นคิดว่าฉลาด เพราะตัวฉันเองก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ฉลาด ตลอดเวลาที่เรียน ฉันพยายามเรียนให้เต็มที่ ฉันทำแบบนั้นเพราะฉันไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวังที่ได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อส่งฉันเรียน แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้ที่ 1 ของห้องเสมอ แต่ก็ช่างเถอะ ถือซะว่าเป็นการทำให้พ่อแม่มีความสุข ทำให้พวกท่านภูมิใจในตัวฉัน ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วฉันไม่อยากเป็นแบบนั้นก็ตาม..ใช่แล้ว ในช่วงเรียนอาชีวะ ฉันไม่เคยได้ยินเพื่อนๆ เยาะเย้ยฉันเลย พวกเขาใจดีทุกคน ฉันรู้สึกขอบคุณที่มีพวกเขา แต่ก็มีคนๆ หนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกเขา ที่วิจารณ์ฉันอย่างรุนแรง.. คนที่ตำแหน่งสูงสุดที่นั่น.. คนที่พูดถึงฉันต่อหน้าเด็กนักเรียนคนอื่นๆ เขาตำหนิหนึ่งในนิสัยของอินโทรเวิร์ตที่ฉันมี.. ใช่แล้ว เขาพูดถึงฉันตอนที่ทำพิธีในโรงเรียน เขาไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ฉันก็แน่ใจว่า เพื่อนๆ รู้ว่าฉันคือคนที่เขาหมายถึง ตอนนั้น ฉันเห็นเขาพูดด้วยสีหน้าที่เหมือนกำลังเยาะเย้ยฉัน ราวกับว่าฉันเป็นคนที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ถ้าหากเขาคนนั้นรู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น เจ็บปวดมาก เจ็บปวดจริงๆ และฉันก็ต้องร้องไห้ออกมาอีกครั้ง และทันใดนั้น คำถามทั้งหมดก็กลับมาอีก ใช่แล้ว ตอนนั้นฉันเกือบจะหมดหวัง...
ฉันไม่เคยเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่เคยเลย...
ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ฉันพยายามอย่างมากที่จะทำให้คนอื่นไม่มองว่าฉันเป็นคนเงียบ ขี้อาย และอื่นๆ ใช่แล้ว ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ฉันสัญญากับตัวเองว่าฉันจะทำได้เหมือนคนที่มีบุคลิกภาพภายนอก (Extrovert) ที่แอคทีฟ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมักจะไปห้องสมุดบ่อยๆ เพื่ออ่านหนังสือ ฉันเรียนรู้สิ่งที่จะเรียนในวันรุ่งขึ้น เพื่อที่ฉันจะได้ถามคำถามในห้องเรียนอย่างแอคทีฟ และฉันก็ฝึกฝนตัวเองให้เป็นผู้บรรยายที่ดี อัลฮัมดุลิลลาห์ (Alhamdulillah) สิ่งเหล่านั้นสำเร็จ ฉันสามารถเป็นผู้บรรยายที่ดีได้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถโต้เถียงได้ แต่ฉันก็สามารถนำเสนอเนื้อหาได้ดี แต่ทว่านิสัยอินโทรเวิร์ตของฉันก็กลับมาอีก มันไม่ได้อยู่กับฉันนาน ฉันกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยถามคำถาม กลายเป็นผู้ฟังที่ดี และสุดท้ายแล้ว มุมมองของเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันก็ยังคงเหมือนกับเพื่อนๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ พวกเขามองว่าฉันเป็นคนเงียบ ขี้อาย หนอนหนังสือ ขยัน และไม่ค่อยอยากจะออกไปเที่ยวข้างนอกไกลๆ
ใช่แล้ว ฉันไม่ใช่คนชอบออกไปข้างนอกบ้านเพื่อทำสิ่งที่ฉันคิดว่าไม่สำคัญ ฉันก็ไม่ชอบอยู่ที่ที่มีบรรยากาศวุ่นวายนานๆ ไม่รู้ทำไม ฉันก็รู้สึกงงๆ เวลาเจอคน ฉันงงว่าจะพูดอะไรดี ฉันไม่เก่งเรื่องการเริ่มบทสนทนา และถึงแม้ว่าฉันจะเริ่มพูด ก็มักจะเป็นการสนทนาสั้นๆ และฉันมักจะเป็นฝ่ายฟังมากกว่าพูด แต่ถ้าฉันคุยกับเพื่อนสนิท ฉันสามารถเล่าอะไรก็ได้ยาวเหยียด มันต่างจากเวลาที่ฉันคุยกับเพื่อนคนอื่นๆ ใช่แล้ว ฉันเป็นแบบนี้...
ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ฉันก็พยายามกำจัดนิสัยอินโทรเวิร์ตของฉันด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมของชมรม อัลฮัมดุลิลลาห์ (Alhamdulillah) นิสัยอินโทรเวิร์ตของฉันก็ลดลง ฉันเคยเป็นประธานจัดงาน 2 ครั้ง นั่นเป็นความสำเร็จที่ดีสำหรับฉัน แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า นิสัยอินโทรเวิร์ตของฉันก็หายไปไม่หมด แม้แต่ตอนอยู่ในชมรม ฉันก็จะพูดแค่เมื่อจำเป็น ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าฉันจะดูเป็นสมาชิกที่เงียบกว่าสมาชิกคนอื่นๆ ใช่แล้ว นิสัยของฉันบางครั้งก็ทำให้ฉันเศร้า ไม่รู้ทำไม คำถามทั้งหมดนั้นก็กลับมาอีก ทันทีทันใด ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้..ฉันมักจะหาคำตอบจากคำถามทั้งหมดนั้น ฉันหาคำตอบจากทุกที่ ฉันมักจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและนิยายที่ฉันคิดว่าสามารถให้คำตอบกับคำถามของฉันได้ ฉันก็มักจะสังเกตสิ่งรอบตัว ฉันหวังว่าฉันจะพบคำตอบ และฉันก็มักจะถามพระองค์ในทุกๆ การละหมาด แต่ก่อน ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอินโทรเวิร์ต ฉันรู้จักตัวเองในฐานะอินโทรเวิร์ตตอนอายุ 20 ปี ฉันได้ข้อมูลนั้นมาจากหนังสือจิตวิทยาเล่มหนึ่งที่อธิบายเกี่ยวกับบุคลิกภาพของแต่ละคน ฉันได้หนังสือเล่มนั้นมาจากห้องสมุดในมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเอง ฉันก็รู้ว่าฉันเป็นอินโทรเวิร์ต ใช่แล้ว ในที่สุดคำถามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตฉันเกี่ยวกับตัวตนของฉันก็ได้รับคำตอบแล้ว..
พูดตามตรง ฉันเศร้าตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นอินโทรเวิร์ต มีเรื่องทุกข์ใจมากมายที่อินโทรเวิร์ตต้องเผชิญ บางครั้งคนอื่นโดยเฉพาะคนที่มีบุคลิกภาพภายนอก (Extrovert) ก็ไม่สามารถเข้าใจอินโทรเวิร์ตได้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คนที่มีบุคลิกภาพภายนอก (Extrovert) ไม่รู้เกี่ยวกับเราอินโทรเวิร์ต พวกเขามักจะมองว่าเราเป็นคนไม่ดี พวกเขามักจะคิดว่าฉันเป็นคนหยิ่ง ถ้าฉันจะพูดตามตรง ฉันไม่มีเจตนาแบบนั้นเลย จริงๆ แล้วฉันอยากจะคุยกับพวกเขาอย่างยาวเหยียด อยากมาก แต่ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ฉันไม่รู้จริงๆ
ขอให้รู้ไว้เถอะว่า จริงๆ แล้วหัวใจของฉันรักพวกเธอมากนะ เพื่อนๆ ของฉัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ฉันก็อธิษฐานให้พวกเธอเสมอ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เคยไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ แต่ฉันก็ยังมองว่าพวกเธอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันภูมิใจที่มีเพื่อนอย่างพวกเธอ พวกเธอเป็นคนที่คอยให้กำลังใจในห้องเรียนเสมอ พวกเธอเป็นคนที่ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนคึกคัก พวกเธอรู้ไหม หัวใจฉันมีความสุขมากที่มีพวกเธอ กับพฤติกรรมและเสียงหัวเราะของพวกเธอ ขอให้รู้ไว้เถอะว่าฉันรักพวกเธอมากนะ..
ถึงแม้ว่าอดีตจะเจ็บปวด แต่ฉันก็ไม่เคยจมอยู่กับความเศร้า อดีตผ่านไปแล้ว ตอนนี้ฉันจะมองไปข้างหน้าสู่อนาคตที่สดใสกว่า ฉันจะโฟกัสแค่ปัจจุบันที่จะนำพาฉันไปสู่ข้างหน้า ปล่อยให้อดีตเป็นความทรงจำในมุมหนึ่งของความคิดฉัน เป็นสิ่งที่เสริมสร้างก้าวเดินของฉัน เพื่อให้ฉันเข้มแข็งอยู่เสมอในการเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตฉัน
การเป็นอินโทรเวิร์ตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฉันอยากจะฝากบอกอินโทรเวิร์ตทุกคนว่า จงพยายามเป็นคนที่ยอดเยี่ยมต่อไป จงแสดงให้โลกเห็นว่าอินโทรเวิร์ตก็สามารถประสบความสำเร็จและแน่นอนว่าสามารถมีประโยชน์ต่อผู้อื่นและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราได้ จงตั้งความฝันและเป้าหมายของคุณให้สูงเท่าท้องฟ้าและพยายามทำให้มันเป็นจริง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จ ความสำเร็จเป็นของคนที่ขยันทำงานหนักและพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุสิ่งที่ใฝ่ฝัน ฉันเชื่อว่าอินโทรเวิร์ตสามารถประสบความสำเร็จได้ จงเชื่อเถอะ เป็นไปไม่ได้ไม่มีในโลก (Impossible is Nothing) ผู้ใดตั้งใจย่อมพบ (Man jadda wajada) !!!
ขอส่งความสำเร็จให้กับทุกคนจากฉัน “อินโทรเวิร์ต” ^_^
ตอนนี้ฉันทำงานเป็นนักบัญชีในบริษัทผู้ผลิตและฉันก็ยังมีเป้าหมายอีกมากมายที่ต้องทำให้สำเร็จ ความฝันเพื่อโลกและปรโลก ความฝันที่จะได้มีประโยชน์ต่อผู้อื่น หวังว่าความฝันของพวกเราทุกคนจะกลายเป็นจริงในเร็ววันนี้ อามีน ยา ร็อบบัล อะลามีน (Aamiin ya Rabbal alamin).. :)ฉันมักจะหาคำตอบจากคำถามทั้งหมดนั้น ฉันหาคำตอบจากทุกที่ ฉันมักจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและนิยายที่ฉันคิดว่าสามารถให้คำตอบกับคำถามของฉันได้ ฉันก็มักจะสังเกตสิ่งรอบตัว ฉันหวังว่าฉันจะพบคำตอบ และฉันก็มักจะถามพระองค์ในทุกๆ การละหมาด แต่ก่อน ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอินโทรเวิร์ต ฉันรู้จักตัวเองในฐานะอินโทรเวิร์ตตอนอายุ 20 ปี ฉันได้ข้อมูลนั้นมาจากหนังสือจิตวิทยาเล่มหนึ่งที่อธิบายเกี่ยวกับบุคลิกภาพของแต่ละคน ฉันได้หนังสือเล่มนั้นมาจากห้องสมุดในมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเอง ฉันก็รู้ว่าฉันเป็นอินโทรเวิร์ต ใช่แล้ว ในที่สุดคำถามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตฉันเกี่ยวกับตัวตนของฉันก็ได้รับคำตอบแล้ว.. พูดตามตรง ฉันเศร้าตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นอินโทรเวิร์ต มีเรื่องทุกข์ใจมากมายที่อินโทรเวิร์ตต้องเผชิญ บางครั้งคนอื่นโดยเฉพาะคนที่มีบุคลิกภาพภายนอก (Extrovert) ก็ไม่สามารถเข้าใจอินโทรเวิร์ตได้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คนที่มีบุคลิกภาพภายนอก (Extrovert) ไม่รู้เกี่ยวกับเราอินโทรเวิร์ต พวกเขามักจะมองว่าเราเป็นคนไม่ดี พวกเขามักจะคิดว่าฉันเป็นคนหยิ่ง ถ้าฉันจะพูดตามตรง ฉันไม่มีเจตนาแบบนั้นเลย จริงๆ แล้วฉันอยากจะคุยกับพวกเขาอย่างยาวเหยียด อยากมาก แต่ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ฉันไม่รู้จริงๆ ขอให้รู้ไว้เถอะว่า จริงๆ แล้วหัวใจของฉันรักพวกเธอมากนะ เพื่อนๆ ของฉัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ฉันก็อธิษฐานให้พวกเธอเสมอ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เคยไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ แต่ฉันก็ยังมองว่าพวกเธอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันภูมิใจที่มีเพื่อนอย่างพวกเธอ พวกเธอเป็นคนที่คอยให้กำลังใจในห้องเรียนเสมอ พวกเธอเป็นคนที่ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนคึกคัก พวกเธอรู้ไหม หัวใจฉันมีความสุขมากที่มีพวกเธอ กับพฤติกรรมและเสียงหัวเราะของพวกเธอ ขอให้รู้ไว้เถอะว่าฉันรักพวกเธอมากนะ.. ถึงแม้ว่าอดีตจะเจ็บปวด แต่ฉันก็ไม่เคยจมอยู่กับความเศร้า อดีตผ่านไปแล้ว ตอนนี้ฉันจะมองไปข้างหน้าสู่อนาคตที่สดใสกว่า ฉันจะโฟกัสแค่ปัจจุบันที่จะนำพาฉันไปสู่ข้างหน้า ปล่อยให้อดีตเป็นความทรงจำในมุมหนึ่งของความคิดฉัน เป็นสิ่งที่เสริมสร้างก้าวเดินของฉัน เพื่อให้ฉันเข้มแข็งอยู่เสมอในการเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตฉัน การเป็นอินโทรเวิร์ตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฉันอยากจะฝากบอกอินโทรเวิร์ตทุกคนว่า จงพยายามเป็นคนที่ยอดเยี่ยมต่อไป จงแสดงให้โลกเห็นว่าอินโทรเวิร์ตก็สามารถประสบความสำเร็จและแน่นอนว่าสามารถมีประโยชน์ต่อผู้อื่นและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราได้ จงตั้งความฝันและเป้าหมายของคุณให้สูงเท่าท้องฟ้าและพยายามทำให้มันเป็นจริง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จ ความสำเร็จเป็นของคนที่ขยันทำงานหนักและพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุสิ่งที่ใฝ่ฝัน ฉันเชื่อว่าอินโทรเวิร์ตสามารถประสบความสำเร็จได้ จงเชื่อเถอะ เป็นไปไม่ได้ไม่มีในโลก (Impossible is Nothing) ผู้ใดตั้งใจย่อมพบ (Man jadda wajada) !!! ขอส่งความสำเร็จให้กับทุกคนจากฉัน “อินโทรเวิร์ต” ^_^ ตอนนี้ฉันทำงานเป็นนักบัญชีในบริษัทผู้ผลิตและฉันก็ยังมีเป้าหมายอีกมากมายที่ต้องทำให้สำเร็จ ความฝันเพื่อโลกและปรโลก ความฝันที่จะได้มีประโยชน์ต่อผู้อื่น หวังว่าความฝันของพวกเราทุกคนจะกลายเป็นจริงในเร็ววันนี้ อามีน ยา ร็อบบัล อะลามีน (Aamiin ya Rabbal alamin) :
ความคิดเห็น0